กล้องติดรถยนต์รุ่นที่สามารถเพิ่ม GPS Module ได้ เช่น GS90A, GS90C, GS98C, DAB201 และ DAB205 ที่รองรับ GPS Tracking ซึ่งสามารถใช้งานฟังก์ชันนี้ได้เพียงแค่ต่อ GPS Module เข้ากับกล้องติดรถยนต์เท่านั้น
รูปร่างหน้าตา GPS Module สำหรับกล้องติดรถยนต์
ตัว GPS Module กว้าง 3.5 cm ยาว 5 cm มีขนาดเล็ก เพียงแค่เสียบสายเข้ากับกล้องติดรถยนต์ และติด GPS ไว้ที่กระจกหน้ารถยนต์ในตำแหน่งที่ต้องการ(โดยการลอกสติ๊กเกอร์ 3M ออก) ก็สามารถใช้งานได้ทันที
เมื่อติด GPS เรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปที่เมนู GPS ในกล้องติดรถยนต์ แล้วเลือกเปิดใช้งานGPS(ค่าเดิมจากโรงงานคือเปิด) หากเปิดเมนูนี้และเสียบสาย GPS กับกล้องติดรถยนต์แล้ว สัญลักษณ์แสดงสถานะ GPS บนหน้าจอกล้องติดรถยนต์จะขึ้นเป็นสีแดง และเมื่อรับสัญญาณ GPS ได้แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า
GPS ในกล้องติดรถยนต์มีประโยชน์อย่างไร
สามารถแสดง locationการใช้รถยนต์บน Google Map ได้ โดยผู้ใช้งานต้องลงโปรแกรม Car DVR Player ในคอมพิวเตอร์ก่อน
วิธี Install โปรแกรม Car DVR Player

ใช้สาย mini USB ที่แถมมาพร้อมกล้องติดรถยนต์ เสียบที่ตัวกล้องติดรถยนต์กับคอมพิวเตอร์ จะพบไดร์ฟของกล้องติดรถ และถ้าใส่เมมโมรีในกล้องด้วยจะพบ Drive ของเมมโมรีการ์ดด้วยใน Drive ของกล้องติดรถยนต์ จะมีไฟล์โปรแกรม 1 ไฟล์ ให้ทำการติดตั้งได้เลย
เมื่อติดตั้งโปรแกรมแล้วจะมี ไอคอนของโปรแกรมปรากฏบน Desktop เมื่อดับเบิ้ลคลิกจะพบหน้าต่างโปรแกรมดังนี้

คลิกที่ File -> Open -> เลือกคลิปวีดีโอที่ต้องการเปิดได้เลย
* โปรแกรมรองรับ Window ยังไม่รองรับ Mac *
ประโยชน์ของการแสดง location
1. กล้องติดรถยนต์ที่มี GPSสามารถใช้ตรวจสอบเส้นทางการใช้รถได้
2. ใช้ยืนยันพิกัดจุดเกิดเหตุ เช่น กรณีที่คุณขับรถไปในสถานที่เปลี่ยวแล้วเกิดอุบัติเหตุ คู่กรณีขับหนี และคุณไม่อยากรอเจ้าหน้าที่ที่จุดๆนั้น คุณก็สามารถนำทั้งภาพเคลื่อนไหว และ location จากในกล้องติดรถยนต์แสดงเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อติดตามและดำเนินคดีกับคู่กรณีได้
3. แสดงความเร็วรถ (Km/h) ลงบนคลิปวีดีโอ ซึ่งสามารถเปิดผ่านโปรแกรมทั่วไปเพื่อดูความเร็วนี้ได้เลยไม่จำเป็นต้องเปิดผ่านโปรแกรม Car DVR Player
แสดงความเร็วลงบนคลิปวีดีโอมีประโยชน์อย่างไร
1. ใช้เป็นหลักฐานในกรณีที่ตำรวจยัดข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด แต่เจ้าของรถมีภาพวีดีโอจากกล้องติดรถยนต์ แต่ภาพเคลื่อนไหวเหล่านั้นก็ไม่สามารถยืนยันได้ 100% ว่า ใครถูก ใครผิด แล้วถ้าภาพเคลื่อนไหวนั้นแสดงความเร็วในการขับขี่เป็นกิโลเมตรต่อชั่วโมงที่บันทึกลงบนคลิปวีดีโอเลย ก็ย่อมเป็นหลักฐานที่สมบูรณ์กว่าอย่างแน่นอน
2. กรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือข้อพิพาทต่างๆ ที่คู่กรณีมักกล่าวหาว่าเราเป็นฝ่ายขับรถเร็ว จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ในกรณีเช่นนี้เราก็สามารถใช้คลิปวีดีโอที่ระบุความเร็วนี้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้เช่นกัน

| หน้าที่เข้าชม | 157,444 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 120,625 ครั้ง |
| ร้านค้าอัพเดท | 23 ต.ค. 2568 |